#ประวัตินักคณิตศาสตร์
#ประวัติวิลเลี่ยมเจมส์ไซดิส #ประวัตินักคณิตศาสตร์ #ประวัติคนฉลาดมาก
#ประวัติคนอัจฉริยะ
ยอดคนอัจฉริยะระดับจักรวาล William James Sidis
-
อัจฉริยะที่โลกลืม วิลเลี่ยม เจมส์ ไซดิส
.
หลายคนเชื่อว่าอัจฉริยะ ด้านเทคโนโลยี อย่าง อีลอน มัสก์ มีไอคิวอยู่ที่ประมาณ 150 ซึ่งใกล้เคียงกับไอคิวโดยประมาณของนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ เช่น อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ และ สตีเฟน ฮอว์คิง ซึ่งคาดว่ามีไอคิวอยู่ที่ประมาณ 160 อย่างไรก็ตาม ไอน์สไตน์ มัสก์ และฮอว์คิงนั้น ยังห่างไกลจากชายคนนี้ บุคคลที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ซึ่งบางคนบอกว่าไอคิวอยู่ระหว่าง 260 ถึง 300 เลย ซึ่งนับเป็น มนุษย์ที่มีไอคิว สูงที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยมีบันทึกมา และนี่คือเขา
.
ชายคนที่ มีไอคิว สูงถึงประมาณ 260 ถึง 300
ชายคนที่ มีไอคิว สูงที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยมีมา
ชายคนที่ มีไอคิว สูงมากกว่าอัลเบิร์ตไอน์สไตล์
ชายคนที่ พูดได้ 8 ภาษาทั้งที่มีอายุเพียงแปดขวบ
ชายคนที่ คิดค้นภาษาด้วยตนเอง
ชายคนที่ เรียนเรียนรู้และแตกฉานได้สูงสุดถึง 40 ภาษา
ชายคนที่ เรียนระดับประถมศึกษาใช้เวลาเพียงหนึ่งปี
ชายคนที่ เรียนระดับมัธยมศึกษาใช้เวลาเพียงหกสัปดาห์
ชายคนที่ เริ่มสะกดเป็น ตั้งแต่วัยหนึ่งขวบ
ชายคนที่ ที่มีขีดความสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดได้ด้วยวัยเพียง9 ปี
ชายคนที่ เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดด้วยอายุที่น้อยที่สุด
.
ใช่แล้ว เขาคือ วิลเลี่ยม เจมส์ ไซดิส อัจฉริยะคนนี้ เขาเป็นใคร มีที่มาที่ไปอย่างไร มารับชมกันครับ
.
โดยปกติแล้ว 95% ของมนุษย์ทั่วไปนั้น มีไอคิวอยู่ที่ 70 ถึง 130 ส่วนคนที่มีไอคิวสูงเกิน 136 ก็จัดว่าเป็นอัจฉริยะ แต่สำหรับคนบางประเภทในเรื่องต่อไปนี้เขามีไอคิวสูงถึง 260 ถึง 300 เลยทีเดียว โดยนิยามของคำว่าเด็กอัจฉริยะ นั่นหมายถึงว่าเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ขวบที่มีความรู้ความสามารถ เหนือกว่าผู้ใหญ่ทั่วไปในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น คณิตฯ วิทย์ หรือด้านอื่นๆ บุคคลคนนี้เขาคือ วิลเลียมเจมส์ ไซดิส เขาคือ บุคคลหนึ่งที่ถูกจัดเป็นเด็กอัจฉริยะ ระดับจักรวาล
.-------------------------------------------------------------------------------
อพยพหนีสงคราม
.
เล่าย้อนกลับไปในปลายศตวรรษที่ 19 ในสมัยนั้น พ่อแม่เขาอพยพมาเนื่องจากการโจมตีของกลุ่มต่อต้านกลุ่ม เซเมติก อย่างรุนแรงในประเทศยูเครน ( สมัยนั้นยูเครนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซีย )
.
ซารา และบอริส สองสามีภรรยาได้อพยพลี้ภัย มายังประเทศอเมริกาเช่นเดียวกับชาวรัสเซียเชื้อสายยิว อีกจำนวนมาก บอริส เป็นคนมีการศึกษาสูง เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาวาด และต่อมาได้เข้าทำงาน ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในตำแหน่งศาสตราจารย์ประจำภาควิชาจิตวิทยา
.
ส่วนคุณซาร่า ผู้เป็นแม่ เธอมีความรู้ในด้านการแพทย์อย่างดี
.
ในวันที่ 1 เมษายนปี 1989 เขาได้ให้กำเนิดบุตรชายชื่อว่า วิลเลียม เจมส์ ไซดิส คุณบอริสและซาร่า ช่วยกันเลี้ยงดู สอนลูกให้รู้จักตัวอักษรและการผสมคำ
.
เพียงแค่ 6 เดือน วิลเลี่ยม ก็สามารถสะกดคำว่า door ได้ และเดือนต่อมาสามารถสะกดคำว่า moon ได้ อายุเพียง 8 เดือน วิลเลี่ยม สามารถใช้ช้อนตักอาหารกินเองได้ ซาร่า ร้องด้วยความตื่นเต้นและบอกนี่คือ สิ่งที่เขาเรียนรู้ด้วยตัวเอง ไม่มีใครสอนเขา เขาใช้เหตุผลในการทำมันออกมาเอง แม่เขาเรียกว่า การใช้เหตุผลตามธรรมชาติ แล้วต่อมาแม่ของเขาก็ใช้วิธีนี้ ในการสอนให้ วิลเลี่ยม ให้รู้จักสะกดคำอื่นๆ
.
แม่เขาบอกว่า เขาไม่ได้ใช้การจดจำแบบคนปกติ แต่เขาใช้วิธีเน้นจดจำไปที่รูปแบบและโครงสร้างที่ซ่อนอยู่ เช่น เราสะกดคำว่า b a t ค้างคาว เขาใช้วิธีการเปลี่ยน ตัวเอ ออกไปเป็นสระตัวอื่น จนได้คำใหม่ขึ้นมา และจดจำมันไว้โดยใช้หลักการนี้
.
ขณะที่เด็กวัย 1 ขวบส่วนใหญ่จะยังพูดอ้อแอ้ไม่เป็นภาษา แต่ วิลเลี่ยม สามารถสะกดคำง่ายๆ บางคำได้แล้ว ซาร่า เห็นพัฒนาการของลูกที่สามารถเรียนรู้ได้เร็วกว่าเด็กทั่วไปมาก เธอจึงลาออกจากงาน เพื่อเอาเวลามาสอนลูกของเธอ ให้เฉลียวฉลาดมากยิ่งขึ้น
.
5 ขวบ วิลเลี่ยมลากเก้าอี้ตัวสูงขึ้นนั่งเคาะแป้นพิมพ์ดีดเขียนจดหมายสั่งซื้อของเล่น ส่งถึงห้างสรรพสินค้าเมซี่ย์ ด้วยตัวเอง และต่อมาเขาก็ขวนขวายเรียนรู้ในสาขาวิชาต่างๆ ด้วยตัวเองโดยเฉพาะภาษาต่างประเทศ เช่น ละติน กรีก ฝรั่งเศส รัสเซีย เยอรมัน และฮิบรู ก่อนจะถูกส่งตัวเข้าเรียนไวยากรณ์ เมื่ออายุได้ 6 ขวบ
.
.
ขอบขอบคุณ
กระทู้จากพันทิพโดย คุณ มิสเตอร์ เทอแรน 20 ตุลาคม 2556 และ
YouTube ช่องอับดุล thai tube และ
YouTube ช่อง joe scott และ
YouTube ช่อง newsthink และ
YouTube ช่อง today i found out และ
interestingengineering.com และ
newspapers.com